welcome to my blog ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกค้ะ

วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2555

Have a finger in every pie


Have a finger in every pie
สำนวนฉบับนี้เป็นคำง่ายๆ ที่แปลตามตัวแล้วก็คือ "มีนิ้วในพาย ทุกชิ้น" จริงอยู่ว่าเวลานำไปใช้จริง คุณไม่สามารถแปลตรงตัวแบบนี้ได้ แต่ว่ากันจริงๆ แล้วความหมายของสำนวนนี้ก็ไม่ทิ้งความหมาย เดิมเท่าไรนะครับ มาลองเดาจากบทสนทนา ระหว่างครูวิทยาศาสตร์กับครูพละของ โรงเรียนแห่งหนึ่งกันก่อนครับ
Science Teacher: What happened? Why did the headmistress call you to her office?
ครูวิทยาศาสตร์ มีอะไรหรือเปล่า ทำไมอาจารย์ใหญ่เรียกอาจารย์ไปพบล่ะครับ
PE Teacher: She wanted to check the progress with the upcoming Sports Day. I needed to give her every last detail of it. And she ended up changing everything I had prepared. 
ครูพละ ท่านอยากเช็กความก้าวหน้าของงานกีฬาสีที่กำลังจะจัดนี่ล่ะครับ ผม ต้องบอกรายละเอียดทุกอย่างให้ท่านฟัง แล้วสุดท้ายท่านก็เปลี่ยน ทุกอย่างที่ผมเตรียมไว้แต่แรกหมดเลย
Science Teacher: Me too! Last week she asked me to submit a full report about the Science Week project. She ordered me to change this and that without listening to me who is directly in charge of it. She does have a finger in every pie!
ครูวิทยาศาสตร์ เหมือนกันเลยครับ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ท่านให้ผมส่งรายงานฉบับเต็มเกี่ยวกับโครงการสัปดาห์วิทยาศาสตร์ ท่านสั่งให้ผมเปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่ แบบไม่ฟังผมเลยทั้งๆ ที่ผมดูแลเรื่องนี้โดยตรง ท่านนี่ have a finger in every pie! จริงๆ

ความหมายของสำนวนนี้ก็คือ "เข้าไปยุ่งหรือ ควบคุมเรื่องทุกเรื่อง" นั่นเอง การใช้สำนวนนี้จะแฝง ความรู้สึกว่าผู้พูดไม่พอใจ เพราะรู้สึกว่าถูกก้าวก่ายสิ่ง ที่เรารับผิดชอบหรือมีอำนาจอยู่ จึงเป็นสำนวนที่ใช้ในแง่ลบครับ สังเกตว่าแม้จะมีความหมายออกแนวพหูพจน์ แต่คำว่า finger ในสำนวนนี้ต้องเป็นรูปเอกพจน์คือ มี a นำหน้าเสมอครับ ส่วนถ้าเป็นการเข้าไปมีส่วน ร่วมในแง่บวก เราอาจเลือกใช้ชุดคำคือ friendly and helpful ซึ่งให้ความหมายว่า "มีน้ำใจช่วยเหลือ" แทน ครับ เช่น The headmistress is really friendly and helpful. She lets me do my task freely but when I have a problem, she is always there to help me handle it. อาจารย์ใหญ่เป็นคนที่มีน้ำใจช่วยเหลือ คนอื่นจริงๆ ท่านให้ผมทำงานของตัวเองได้อย่างอิสระ แต่เวลาที่ผมมีปัญหาท่านก็พร้อมจะช่วยแก้ไขเสมอ

วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2555

 ถ้า เอ่ยถึงรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นรัฐที่มีเมืองสำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลอสแอนเจลิส, แซนดีเอโก, ซานฟรานซิสโก ฯลฯ แต่น้องๆ ชาว Dek-D.com คงยังไม่รู้ว่ากฎหมายของรัฐนี้บางข้อ มีความแปลกและแอบฮากลิ้งมาก ถ้าไม่เชื่อ งั้นตามพี่ปัดไปดูกฎหมายแปลกๆ เหล่านี้กันแลย...

              ห้ามขายน้ำมัน :: อย่าเพิ่งตกใจไปว่าถ้าเกิดรถคันเก่งน้ำมันหมดจะทำยังไง? กฎหมายห้ามขายน้ำมันข้อนี้ ใช้ห้ามขายให้แก่คนเมาเท่านั้น!! ด้วยเหตุที่กลัวคนเมาจะขับรถไปชนหรือก่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั่นเองจ้ะ

              
ห้ามขี่จักรยานในสระว่ายน้ำ :: พี่ ปัดแอบสงสัยว่าจะมีคนสติดีที่ไหน เขานึกสนุกพาจักรยานคู่ใจไปขี่ในสระว่ายน้ำบ้าง ถ้ามีก็แปลว่าเป็นคนเพี้ยนไปแล้วล่ะจ้ะ จึงขอยกนิ้วให้กับความแปลกและฮากลิ้งของ
กฎหมายข้อนี้จริงๆ
  ห้ามคนมีหนวดเคราจูบผู้หญิง :: ฟังดูน่าจั้กจี้มากๆ แต่ที่เจ๋งก็คือ ลองนึกภาพหนุ่มๆ ที่โกน หนวดเคราเรียบร้อยแลดูสะอาดสะอ้าน นอกจากจะดูน่าไว้ใจแล้วยังหล่ออีกด้วยนะ ดังนั้นก็ทำตามกฎหมายเสียเถอะ จะได้ไม่ถูกตำรวจจับเข้าไปนอนในห้องขัง

              
ห้ามนอนบนรถ :: อย่า เพิ่งนึกว่ารัฐแคลิฟอร์เนียใจร้าย ไม่ยอมให้คนง่วงนอนนอนหลับบนรถนะจ๊ะ กฎหมายข้อนี้ เขาห้ามนอนเฉพาะบนรถที่จอดดับเครื่องสนิทเท่านั้น!!
ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากกลัวว่าคนที่นอนในรถที่ดับเครื่องและปิดหน้าต่างสนิทจะเสียชีวิต เพราะไม่มีอากาศหายใจนั่นเอง

              
ห้องน้ำสาธารณะต้องมีกระดาษทิชชูเสมอ ::
กฎหมาย ข้อนี้พี่ปัดเห็นด้วยกับรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นที่สุด เพราะไม่ว่าจะทำธุระถ่ายหนัก ถ่ายเบา หรือล้างมือหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ เราก็ต้องใช้กระดาษทิชชู ดังนั้นห้องน้ำทุกห้องจึงควรมีสิ่งนี้ไว้เสมอ

              
ห้ามใส่รองเท้าบู๊ทคาวบอย :: ไม่ว่ากระแสแฟชั่นรองเท้าบู๊ทคาวบอยจะมาแรงขนาดไหน แต่สำหรับที่รัฐแคลิฟอร์เนียแล้ว ถ้ายังไม่ได้ครอบครองวัวอย่างน้อย 2 ตัว ก็ห้ามใส่เด็ดขาด เพราะไม่อย่างงั้นอาจจะต้องเปลี่ยนที่นอนจากเตียงนุ่มๆ ไปนอนในห้องขังแทนได้
 
 
ห้ามเล่นเครื่องดนตรีประเภทเคาะตีบนชายหาด :: ไปเที่ยวทั้งที่มันก็ต้องมีเครื่องดนตรีไปเล่นเพิ่มสีสัน และความสนุกสนานใช่ไหม แต่ถ้าน้องๆ ชาว Dek-D.com จะไปเที่ยวทะเลที่รัฐแคลิฟอร์เนียแล้วล่ะก็ พี่ปัดขอแนะนำว่าห้าม!! เล่นเครื่องประเภทเคาะตีทุกชนิดบนชายหาด เพราะกฎหมายที่นี่เข้าห้ามเด็ดขาด

              
ห้ามเลขานุการอยู่ในห้องกับเจ้านายตามลำพัง :: การที่เลขานุการเข้าไปคุยงานในห้องกับเจ้านายถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ที่รัฐแคลิฟอร์เนียแล้วเขามีกฎหมายออกมาห้าม!! เลขานุการเข้าไปอยู่ในห้อง 2 ต่อ 2
กับเจ้านาย ดังนั้นก่อนที่จะเข้าไปในห้องเจ้านาย เลขานุการก็อย่าลืมชวนเพื่อนร่วมงานคนอื่นเข้าไปด้วยนะจ๊ะ จะได้ไม่ทำผิดกฎหมาย

              
เห็นไหมจ๊ะว่า กฎหมายทั้ง 8 ข้อ ของรัฐแคลิฟอร์เนียนั้น มีความแปลก และฮากลิ้งอย่างที่พี่ปัดบอกจริงๆ แต่ในเมื่อเป็นกฎหมายแล้ว พวกเราซึ่งเป็นคนในสังคมก็ควรที่จะเคารพและนำไปปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อสังคมที่น่าอยู่ของเรายังไงล่ะจ๊ะ



วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

ดูแลสุขภาพดวงตาง่ายๆ ด้วยโยคะสายตา

ดูแลสุขภาพดวงตาง่ายๆ ด้วยโยคะสายตา

ชีวิตยุคไอที การใช้งานคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ทันสมัย
เพื่อทำงาน หรือติดตามข่าวสาร จำเป็นต้องใช้สายตาจ้องมองเป็นเวลานาน การดูแลสุขภาพดวงตาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เทคนิคเพื่อบริหารดวงตาให้มีสุขภาพดีนั้นมีหลากหลาย โยคะมีการบริหารดวงตา
โดยต้องถอดแว่นหรือคอนแทคเลนส์ออกก่อน แล้วทำตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 หลับตาแล้วถูฝ่ามือสองข้างเข้าหากันไปมาอย่างเร็วจนรู้สึกร้อน

ขั้นตอนที่ 2 ประคบฝ่ามือทั้งสองข้างนาบกับหนังตานานประมาณ 1 นาที
ให้รู้สึกถึงความร้อนที่แผ่จากฝ่ามือสู่ดวงตา

ขั้นตอนที่ 3 ผ่อนคลายความเคร่งเครียดทั้งมวลลงพร้อมทั้งหายใจลึกๆ
นำมือออก ลืมตาขึ้น

ขั้นตอนที่ 4 เคลื่อนสายตาจากซ้ายไปขวา โดยมองไปยังที่ไกลๆ จากมุมซ้ายสุด
แล้วกวาดสายตาไปยังมุมขวาสุด ทำซ้ำกัน 4 ครั้ง

ขั้นตอนที่ 5 ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1-3 แล้ว เคลื่อนสายตาจากมุมขวาบนไปยัง
มุมซ้ายล่างเป็นเส้นทแยงมุม ทำซ้ำๆ กัน 4 ครั้ง

ขั้นตอนที่ 6 ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1-3 แล้ว เคลื่อนสายตาโดยกวาดสายตาเป็นวง
(ทิศทางตามเข็มนาฬิกา) ทำซ้ำกัน 4 ครั้ง

ขั้นตอนที่ 7 ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1-3 แล้ว
เคลื่อนสายตาจากบนสุดลงมายังจุดล่างสุด
โดยมองไปยังจุดไกลๆ ที่สุดด้านบน
แล้วกวาดสายตาลงมายังจุดด้านล่างอย่างช้าๆ
ทำซ้ำกัน 4 ครั้ง
ขั้นตอนง่ายๆ ที่ทำได้ด้วยตนเองเพียงแค่นี้ ก็สามารถดูแลดวงตาให้มีสุขภาพดี