welcome to my blog ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกค้ะ

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

4 ข้อควรปฏิบัติก่อนการเลือกซื้ออาหารนอกบ้าน

ชีวิตในเมืองที่รีบเร่ง ทำให้ต้องพึ่งพาร้านจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปนอกบ้านมากขึ้น และเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการบริโภค มีข้อแนะนำ 4 ข้อ
ที่ควรปฏิบัติก่อนการซื้ออาหารนอกบ้าน ดังนี้

1. อ่านฉลากก่อนซื้อ
ดูคุณค่าของสารอาหารในฉลากโภชนาการ ชื่ออาหาร ชื่อผู้ผลิต สถานที่ผลิต
วันเดือนปีที่ผลิต วันเดือนปีที่หมดอายุ และต้องมีเครื่องหมาย อย. ซึ่งแสดงว่า
อาหารนั้นผ่านการตรวจสอบคุณภาพ และได้รับมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการ
อาหารและยา

2. สังเกตลักษณะของภาชนะบรรจุ
ต้องอยู่ในลักษณะที่ดีและสะอาด เช่น เครื่องดื่มอยู่ในภาชนะที่ปิดสนิท
กระป๋องอยู่ในสภาพดี ไม่บุบ ไม่บวม

3. สังเกตลักษณะของอาหาร
สี กลิ่น และรส ต้องไม่มีความผิดปกติจากธรรมชาติ หรือเปลี่ยนแปลงจากลักษณะเดิม
เช่น กลิ่นหืนหรือเหม็นเปรี้ยว หรือสีสันฉูดฉาด ควรเลือกซื้ออาหารที่
ใช้สีจากธรรมชาติ หรือไม่มีส่วนผสมของสีเลย

4. สังเกตความสะอาด
ขั้นตอนการเตรียมอาหาร สถานที่เตรียมอาหาร
การล้าง การปรุง และความสะอาดของผู้ขาย

ก่อนการทานอาหารทุกมื้อ
ฝากไว้สักนิดว่า อย่าลืม! ล้างมือก่อนทาน
และใช้ช้อนกลางตักแบ่งอาหารนะคะ

ผมหงอก..ยิ่งถอนยิ่งหงอกจริงหรือไม่

ในวัยที่เริ่มมีผมหงอกเรามักจะไม่กล้าถอนกัน เพราะเชื่อว่าเมื่อถอนผมหงอก
เชื้อผมหงอกจะกระจายจากรากผมเส้นที่หงอก แล้วลามไปที่รากผมบริเวณใกล้เคียง
(อย่างกับโรคติดต่อ) จนทำให้ผมหงอกทั้งศรีษะ

แต่ในความเป็นจริงแล้วรากผม 1 เส้น จะสร้างผมได้ 1 เส้น ต่อให้ตัดหรือถอน
ก็ไม่สามารถทำให้เส้นผมเพิ่มขึ้นได้ เพราะเส้นผมหงอกที่ถูกถอนหนึ่งเส้น
จะไม่สามารถสร้างผมหงอกขึ้นมาได้อีก ดังนั้น การที่ยิ่งถอนยิ่งหงอก
จึงเป็นไม่เป็นความจริง แต่ผมหงอกที่เพิ่มขึ้น เพิ่มจากปัจจัยอื่นต่างหาก

เพื่อเป็นการป้องกันที่สาเหตุ ก่อนที่จะหงอกก่อนวัย เราควรดูแลผมให้ดกดำ
ด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น งาดำ เป็นต้น หรือถ้าหงอกมากแล้วไม่สบายใจ
จะพิจารณาเป็นการย้อมผมดำแทนก็ได้ แล้วแต่จะเลือกวิธีการที่สะดวก
และเหมาะกับตนเอง

ดูแลสุขภาพดวงตาง่ายๆ ด้วยโยคะสายตา


ชีวิตยุคไอที การใช้งานคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ทันสมัย
เพื่อทำงาน หรือติดตามข่าวสาร จำเป็นต้องใช้สายตาจ้องมองเป็นเวลานาน การดูแลสุขภาพดวงตาจึงเป็นสิ่งสำคัญ

เทคนิคเพื่อบริหารดวงตาให้มีสุขภาพดีนั้นมีหลากหลาย โยคะมีการบริหารดวงตา
โดยต้องถอดแว่นหรือคอนแทคเลนส์ออกก่อน แล้วทำตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 หลับตาแล้วถูฝ่ามือสองข้างเข้าหากันไปมาอย่างเร็วจนรู้สึกร้อน

ขั้นตอนที่ 2 ประคบฝ่ามือทั้งสองข้างนาบกับหนังตานานประมาณ 1 นาที
ให้รู้สึกถึงความร้อนที่แผ่จากฝ่ามือสู่ดวงตา

ขั้นตอนที่ 3 ผ่อนคลายความเคร่งเครียดทั้งมวลลงพร้อมทั้งหายใจลึกๆ
นำมือออก ลืมตาขึ้น

ขั้นตอนที่ 4 เคลื่อนสายตาจากซ้ายไปขวา โดยมองไปยังที่ไกลๆ จากมุมซ้ายสุด
แล้วกวาดสายตาไปยังมุมขวาสุด ทำซ้ำกัน 4 ครั้ง

ขั้นตอนที่ 5 ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1-3 แล้ว เคลื่อนสายตาจากมุมขวาบนไปยัง
มุมซ้ายล่างเป็นเส้นทแยงมุม ทำซ้ำๆ กัน 4 ครั้ง

ขั้นตอนที่ 6 ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1-3 แล้ว เคลื่อนสายตาโดยกวาดสายตาเป็นวง
(ทิศทางตามเข็มนาฬิกา) ทำซ้ำกัน 4 ครั้ง

ขั้นตอนที่ 7 ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1-3 แล้ว
เคลื่อนสายตาจากบนสุดลงมายังจุดล่างสุด
โดยมองไปยังจุดไกลๆ ที่สุดด้านบน
แล้วกวาดสายตาลงมายังจุดด้านล่างอย่างช้าๆ
ทำซ้ำกัน 4 ครั้ง

ขั้นตอนง่ายๆ ที่ทำได้ด้วยตนเองเพียงแค่นี้ ก็สามารถดูแลดวงตาให้มีสุขภาพดี

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554

เด็กไม่เอาถ่าน คำนี้มีที่มาจากอะไร?


เด็กที่วันๆ เอาแต่เล่นเกมส์ออนไลน์ ไม่อ่านหนังสือเรียน การบ้านก็ไม่ทำ งานบ้านก็ไม่เคยคิดจะหยิบจับช่วยเหลือพ่อแม่ ทานอาหารแล้วไม่รู้จักล้างจานชาม เหล่านี้ล้วนเป็นตัวอย่างพฤติกรรมของ "เด็กไม่เอาถ่าน"

ทำไมจึงเรียก "เด็กไม่เอาถ่าน" คาดกันว่าคำนี้มีที่มาจากคำเดิม คือ "เหล็กไม่เอาถ่าน" เพราะในสมัยก่อนนั้น การหลอมเหล็กหรือตีอาวุธจากเหล็กให้แข็งแกร่งนั้น จำเป็นต้องใช้ถ่านในการก่อเปลวไฟจนลุกโชน เพื่อให้ความร้อนแก่เหล็ก แล้วถ่านหรือคาร์บอนจะแทรกตัวเข้าไปอยู่ในเนื้อเหล็กหลังจากการถลุง ถ้าเหล็กไม่มีถ่านผสมอยู่เลย เหล็กนั้นจะมีคุณภาพต่ำ ไม่แข็งและเหนียวพอที่จะเรียกว่า เหล็กกล้า แต่หากมีมากเกินไปจะทำให้เหล็กเปราะ เหล็กที่ดีควรมีคาร์บอนเข้าไปผสมอยู่ประมาณ 0.1 - 1.8%

ช่างตีอาวุธจากเหล็กในสมัยโบราณ จำเป็นต้องคิดค้นหากลวิธี เพื่อขจัดปัญหาดาบหัก เพราะแสดงถึงกรรมวิธีการผลิตที่ไม่ดีทำให้เหล็กไม่เอาถ่าน จนกลายเป็นคำพูดติดปาก เปรียบเทียบนิสัยคนกับอาวุธว่า "เหล็กไม่เอาถ่าน"

กางเกงชั้นในสีแดงช่วยส่งเสริมสุขภาพจริงหรือ?

ผิวหนังของเราถือเป็นดวงตาคู่ที่สอง เพราะ ในผิวหนังมีอวัยวะที่ทำหน้าที่เป็นตา
ในการรับสัมผัสอยู่ โดยอวัยวะนี้จะทำหน้าที่เป็นตัวเซ็นเซอร์แสง ดังนั้น
แม้ว่าตาจะปิดอยู่ เราก็สามารถรู้สึกถึงสีได้จากความยาวคลื่นของสี

สีที่มีความยาวคลื่นสูงที่สุด คือ สีแดง จึงกล่าวกันว่า สีแดงสามารถกระตุ้น
การทำงานภายในร่ายกาย ทำให้ความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ
และอุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น

ในกลุ่มผู้สูงอายุที่ใส่กางเกงชั้นในสีแดงตัวใหญ่ หรือผ้าคาดเอวสีแดงปิดสะดือ
จะช่วยให้มีสุขภาพดี เนื่องจากบริเวณใต้สะดือลงไปประมาณ 5 ซ.ม.
มีจุดที่เรียกว่า Tanden (จุดตันเถียน) ซึ่งทางการแพทย์ตะวันออกถือเป็น
จุดสำคัญที่เป็นจุดกำเนิดของ "จิตวิญญาณ" ซึ่งเป็นพลังแห่งชีวิต

เมื่อกระตุ้นบริเวณดังกล่าว ด้วยการห่มผ้าสีแดง จะทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
ร่างกายอบอุ่น ลดอาการหนาวสั่น ลดอาการปวดหลัง-ปวดไหล่ ช่วยฟื้นฟู
ความเหน็ดเหนื่อย กระฉับกระเฉงขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ คลายเครียด
ช่วยให้อาการประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือปวดประจำเดือนดีขึ้น
รวมถึงมีพลังเพิ่มขึ้นด้วย

แต่มีข้อควรระวัง คือ เมื่อใส่กางเกงในสีแดงแล้ว บางคน
จะรู้สึกตื่นตัวจนนอนไม่หลับ หรือมีความดันโลหิตเพิ่มขึ้น
ดังนั้น ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงจึงควรระมัดระวัง

ผ้าขนหนูลดปวดต้นคอ

อาการปวดต้นคอ ที่อาจเกิดจากการอยู่ในอิริยาบถที่ไม่ถูกต้อง เช่น การนั่งผิดท่า
ต้องก้ม-เงยหน้าเป็นเวลานาน หรือเกิดจากความเครียด มีวิธีบรรเทาอาการเบื้องต้น
ซึ่งในหนังสือ New Choices in Natural Healing แนะนำให้ใช้ผ้าขนหนู
2 วิธีดังนี้

วิธีที่ 1 มีขั้นตอน คือ
- พับปลายผ้าขนหนูตามแนวยาวทั้งสองด้านเข้าหากันในตำแหน่งกึ่งกลางผ้า
- ม้วนปลายผ้าจากด้านซ้ายไปขวาตามแนวกว้าง
- นอนหงาย นำผ้าขนหนูที่ม้วนไว้มาหนุนคอ และเลื่อนขึ้นบน-ล่างของคอ เพื่อให้ผ้าขนหนูอยู่ในตำแหน่งที่สบายคอมากที่สุด
- นอนค้างไว้ในท่านั้นนาน 15-20 นาที

วิธีที่ 2 มีขั้นตอน คือ
- พับผ้าขนหนูตามแนวยาวเป็นสามทบ
- ถือปลายผ้าทั้งสองข้าง พาดส่วนกลางผืนไว้บริเวณท้ายทอย
- ออกแรงดึงปลายปลายผ้าทั้งสองข้างมาด้านหน้า และพยายามหงายศรีษะไปด้านหลังเพื่อต้านแรงดึงปลายผ้า
- ทำท่านี้ค้างไว้ 30 วินาที แล้วจึงผ่อนแรงโดยทำทั้งหมด 10 ครั้ง

อุปกรณ์ที่หาได้ง่ายอย่างผ้าขนหนู สามารถนำมาบรรเทาอาการปวดเมื่อยต้นคอ
ได้ง่ายๆ แต่ถ้าอาการปวดไม่ทุเลา ปวดเพิ่มมากขึ้น ปวดร้าวไปที่บริเวณอื่น
เช่น ไหล่ แขน โดยอาจมีอาการชา หรือกล้ามเนื้อมือหรือขาอ่อนแรงร่วมด้วย
ควรปรึกษาแพทย์

กินแตงโม...ลดความดันเลือด


ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ ที่มหาวิทยาลัยเท็กซัสทางตะวันตกเฉียงใต้บอกว่า ในแตงโมมีโพแทสเซียมและเกลือแร่สูง ซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษาไต และการทำงานของหัวใจได้ดี

แตงโมโพแทสเซียมสูง

กรมวิชาการเกษตรของสหรัฐอเมริกาได้แนะนำให้ผู้ใหญ่ ควรได้รับโพแทสเซียมประมาณ 4,044 มิลลิกรัม จากอาหารและเครื่องดื่มในแต่ละวัน

โดยโฆษกสมาคมอเมริกันเกี่ยวกับการควบคุมอาหาร Lona Sandon ยังบอกอีกว่า แตงแคนตาลูปและแตงโมมีโพแทสเซียมสูงมาก แคนตาลูป 1 ลูก มีโพแทสเซียมอยู่มากถึง 800-900 มิลลิกรัม หรือเกือบร้อยละ 20 ของโพแทสเซียมที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน ส่วนแตงโม 2 ลูกมีปริมาณโพแทสเซียมที่แนะนำต่อวันเกือบร้อยละ 10 เลย

จริง ๆ แล้วความดันเลือดสูงเป็นอันตรายอย่างมาก เพราะทำให้หัวใจทำงานหนักเกินไป และการไหลเวียนของเลือดที่ผิดปกติ สามารถทำลายเส้นเลือดและอวัยวะต่าง ๆ เช่น หัวใจ ไต สมอง และตาได้

จากผลสำรวจพบว่า ชาวอเมริกันประมาณ 65 ล้านคน โดยเฉพาะวัยผู้ใหญ่เป็นโรคความดันโลหิตมากขึ้น ซึ่งก็หมายความว่าคนเหล่านี้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไต และตาบอดได้

ระวัง 5 สารพิษใกล้ตัว


ในชีวิตประจำวันของพวกเรา มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มาทำให้ชีวิตเราสบายและรวดเร็วมากขึ้น แต่ในทางกลับกันความสะดวกสบายเหล่านั้น ก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราได้ โดยเฉพาะสารพิษ สารเคมีใกล้ตัวที่เป็นภัยต่อสุขภาพและไม่อาจมองข้ามได้

1. เฟอร์นิเจอร์

เครื่องใช้ในบ้านและสำนักงานจำพวกเฟอร์นิเจอร์ไม้มักตรวจพบสารฟอร์มาลดีไฮ ด์ตกค้าง และสารเคลือบเงาเช่น โทลูอีน ไซลีน และ เอธิลเบนซิน รวมถึงสีที่มีสารตะกั่วเป็นส่วนประกอบหลุดลอกจากเฟอร์นิเจอร์ หรือผนังอาคารปะปนกับฝุ่นผงในอากาศ

อาการ : สารฟอร์มาลดีไฮด์ โทลูอีน ไซลีน เมื่อสูดดมเข้าไปบ่อย ๆ จะมีอาการระคายเคืองจมูกและลำคอ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ระคายเคืองต่อผิวหนังหรือระบบทางเดินหายใจ ส่วนสารตะกั่วนอกจากจะก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะ เบื่ออาหารแล้ว ถ้าได้รับเป็นเวลานานและปริมาณมากจะมีผล คือ ปวดท้องรุนแรง ทำลายสมอง ไต ระบบการย่อยอาหารและระบบการได้ยิน

วิธีป้องกัน : ทำความสะอาดห้องทำงานอยู่เสมอ และจัดให้มีการระบายอากาศที่ดี

2. น้ำยาลบคำผิดและกาว

มีส่วนผสมของสารระเหยที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะมีทินเนอร์และสารประกอบอินทรีย์เคมีชนิดต่าง ๆ ประกอบอยู่ ได้แก่ สารโทลูอีน เบนซิน และสไตลีน ซึ่งมีกลิ่นพิเศษ เฉพาะและระเหยปะปนในอากาศได้ง่าย

อาการ : หากสูดดมในระยะสั้นจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตาผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจ วิงเวียน หน้ามืด มีผลกระทบต่อประสาทส่วนกลาง และเสียการทรงตัวได้ หากสูดดมติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้โครโมโซมในเม็ดเลือดผิดปกติจนถึงขั้นเป็นมะเร็งในเม็ดเลือด หรือหากกลืนสารเหล่านี้เข้าไปและมีการสำลักร่วมด้วยอาจทำให้ปอดอักเสบได้

วิธีป้องกัน : หลีกเลี่ยงการสูดดม และจัดให้มีการระบายอากาศที่ดี

3. ฝุ่นละอองในสำนักงาน

อาจเกิดจากผงหมึกที่กระจายออกมาจากเครื่องถ่ายเอกสาร ฝุ่นเยื่อกระดาษที่อาจพบตามเอกสารต่าง ๆ บนโต๊ะทำงาน หรือกระดาษปิดผนังหรือวอลเปเปอร์ โดยฝุ่นเหล่านี้สามารถเข้าไปสะสมในปอดได้

อาการ : จะมีอาการไอ จาม และระคายเคืองต่อตา จมูก และคันผิวหนัง หากได้รับบ่อย ๆ อาจก่อให้เกิดโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือโรคหอบหืดได้

วิธีป้องกัน : ควรจัดวางโต๊ะทำงานไม่ให้หนาแน่น ทำความสะอาดห้อง และโต๊ะทำงานเป็นประจำ แบ่งโซนเครื่องถ่ายเอกสารหรือหนังสือให้อยู่ในมุมที่ห่างไกลจากคนทำงาน

4. สารเคมีจากคอมพิวเตอร์

มีผลการศึกษาของนักวิจัยในสวีเดนระบุว่า สารเคมีจากจอคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ โดยสารเคมีที่ชื่อ Triphenyl Phosphate ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในจอวิดีโอหรือปากกาเคมี ตลอดจนสเปรย์ปรับอากาศ ซึ่งมีกลิ่นจากสารเคมี

อาการ : ระคายเคืองต่อเยื่อบุจมูกและตาได้

วิธีป้องกัน : ทำความสะอาดห้องทำงานอยู่เสมอ และจัดให้มีการระบายอากาศที่ดี

5. ไอเสียจากรถยนต์

ในระหว่างการเดินทางไปทำงานและกลับบ้านทุก ๆ วันท่ามกลางการจราจรอันแออัด คุณแม่มีโอกาสได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ที่มีการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์จากรถยนต์ที่วิ่งอยู่ตามถนน และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้สุขภาพของคุณแม่แย่ลงได้

อาการ : ถ้าได้รับปริมาณน้อย ๆ อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ หายใจ หอบสั้น คลื่นไส้ ง่วงซึม และการตัดสินใจไม่ค่อยเด่นชัด มีความสับสน แต่ถ้าในระดับความเข้มข้นที่สูงมาก ๆ ก็ทำให้ประสาทมึนงง ซึม และหมดสติ

วิธีป้องกัน : ใช้ผ้าปิดปาก หลีกเลี่ยงการสูดดมหรืออยู่ในสถานที่ที่ระบายอากาศได้ดี

วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554

3 ท่า เช็คอาการกระดูกทับเส้นประสาท


กระดูกทับเส้นประสาทนั้น มักมีอาการปวดร้าวตามเส้นประสาทที่ถูกกดทับ
รู้สึกปวดหลัง ขา หรือแขน แตกต่างกันไปในแต่ละราย ขึ้นอยู่กับว่ากระดูก
ทับเส้นประสาทเส้นไหน

ผู้ป่วยส่วนใหญ่ รักษาด้วยการนอนพัก กินยา กายภาพบำบัด
ผู้ป่วยส่วนน้อย รักษาด้วยการผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทออกไป
หากได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ สามารถหายกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
เมื่อไม่แน่ใจว่าเป็นกระดูกทับเส้นประสาทหรือไม่ วิธีเช็คอาการเบื้องต้น มีดังนี้

1. นอนหงาย
2. ยกขาข้างหนึ่งขึ้น โดยให้หัวเข่าเหยียดตรง ทำมุมตั้งฉากกับพื้น ถ้ามีอาการ
กระดูกทับเส้นประสาทจะรู้สึกปวดตึงขา
3. เมื่อกระดกปลายเท้ามาด้านหน้าจะรู้สึกปวดมากขึ้น

นอกจากนี้ อาจมีอาการปวดชาตามขาข้างใดข้างหนึ่ง และมีอาการขาอ่อนแรงร่วมด้วย
ถ้าสังเกตพบความผิดปกติเบื้องต้น ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโดยด่วน

เทคนิคเลิกกาแฟ สำหรับคนอยากเลิกกาแฟ


ท่านที่ดื่มกาแฟเป็นประจำถึงขั้นติด หากวันไหนไม่ได้ดื่มก็จะมีอาการอ่อนเพลีย ง่วงนอนมากจนตาจะปิด ปวดศีรษะ หรือรู้สึกคลื่นไส้ เหล่านี้จัดเป็นอาการของคนติดกาแฟ เนื่องจากในกาแฟมี “คาเฟอีน” ซึ่งเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่ง โดยลักษณะอาการถูกจัดให้อยู่ในประเภทเดียวกับการติดสุรา มักจะพบในกลุ่มผู้ดื่มเกินวันละ 2 แก้ว

วันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ จึงนำเทคนิคง่าย ๆ ในการเลิกกาแฟมาแนะนำกันคะ...

ขั้นแรก ลองลดปริมาณการดื่มต่อวันเพื่อให้ร่างกายเริ่มชินกับคาเฟอีนที่ท่านได้รับ ซึ่งไม่ได้มาจาก กาแฟ เท่านั้น แต่ยังรวมถึง โกโก้ เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำอัดลมบางชนิดด้วย

ต่อด้วยการนอนพักผ่อนตอนกลางคืนให้เพียงพอก็ช่วยได้ เพราะเราจะได้ไม่อ่อนเพลียจนต้องไปพึ่งการดื่มกาแฟ นอกจากนั้นการดื่มน้ำสะอาดวันละ 1-2 ลิตร หรือ รับประทานอาหารเช้า ก็ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลียได้เช่นกัน

อีกเทคนิค คือ หลีกเลี่ยงการไปร้านกาแฟ จะดีกว่าแวะเข้าไปแล้วอดใจไม่ได้

สุดท้ายท่านใดมีอาการปวดศีรษะ หากไม่ได้ดื่มกาแฟ แนะนำให้รับประทานยาพาราเซตามอลหรือแอสไพรินได้ แต่ไม่ควรทานยาแก้ปวดไมเกรน เนื่องจากมีส่วนผสมของคาเฟอีนอยู่หรือหากมีอาการหงุดหงิด ใจสั่น การอาบน้ำเย็นจะสามารถช่วยบรรเทาได้

เล่นฮูลาฮูป ลดน้ำหนักได้จริงหรือ?


แหม่มสาวอังกฤษนางหนึ่งเที่ยวคุยอวด ใครๆว่า เธอคิดสูตรลดน้ำหนักแบบเรียนลัดได้สำเร็จ ด้วยการเต้นฮูลาฮูปตัวเปล่า หลังจากที่โดนพนักงานบาร์ปากมากคนหนึ่งกระเซ้าเอาว่า เธอเหมือนกับดาราสาวอ้วนคนหนึ่ง

นักแสดงสาวแคลร์ เฟรนซ์ วัย 27 ปี หนักตอนนั้นถึง 140 กก. เล่าว่า เกิดความชอบเต้นฮูลาฮูปขึ้นมา เมื่อเข้าเรียนการแสดงในโรงเรียนการแสดงที่เมืองลิเวอร์พูล และก้มหน้าก้มตาเต้นฮูลาฮูป อย่างหนัก จนบัดนี้สามารถลดน้ำหนักลงไปได้ถึง 70.4 กก. พร้อมด้วยรูปร่างที่ค่อยมีทรวดทรงองค์เอวขึ้น แถมยังอาศัยประสบการณ์ของตน เปิดโรงเรียนสอนการเต้นฮูลาฮูปขึ้นในเมืองแมนเชสเตอร์ได้ด้วย

เธอสารภาพว่า ตอนที่โดนทักว่าเหมือนกับดาราอ้วนจ้ำม่ำนั้นเกือบจะร้องไห้ "แต่เดี๋ยวนี้หนูเหมือน กับเป็นเอกอัครราชทูตของฮูลาฮูปเสียแล้ว มันทั้งสนุก เป็นการออกกำลังที่ดี และได้แปลงโฉมของหนู ให้กลายเป็นคนใหม่ไปโดยสิ้นเชิง หนูสามารถจะช่วยให้ใครต่อใครมีรูปโฉมโนมพรรณสวยงามได้".


ฮูล่าฮู้ป ของเล่นของเด็กๆ สมัยก่อนที่กำลังกลับมาอินเทรนด์อีกครั้ง แต่การกลับมาครั้งนี้ไม่เหมือนเดิมเพราะเจ้าฮูล่าฮู้ปนี้จะมาทำให้สาวๆ หุ่นดีกันค่ะ เพียงแค่คุณสาวๆ หาเจ้าห่วงฮูลาฮู้ปนี้มาแล้วหมุนๆ แต่ถ้าจะให้ได้ผลดีก็มีท่าเฉพาะด้วยนะค่ะ ไปลองทำตามกันเลย

อุปกรณ์ ห่วงฮูล่าฮู้ปที่หนักประมาณ 3 ปอนด์ เหมาะที่สุดสำหรับการไดเอท และจะเห็นผลเร็วกว่าการใช้ห่วงน้ำหนักเบา

1. เดินย่ำอยู่กับที่ 3 นาที เพื่อกระตุ้นร่างกายให้พร้อม

2. คล้องห่วงเข้ากับสะโพกและหมุนไปมา 3-5 นาที

3. แยกขากว้างประมาณช่วงไหล่ ปลายเท้าชี้ออกด้านซ้ายเล็กน้อย วางห่วงไว้ข้างซ้ายของลำตัว จับส่วนบนของห่วงด้วยมือซ้าย ยกขาขวาขึ้นด้านข้างให้สูงระดับสะโพกหรือสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แขนขวาชูขึ้นเหนือหัว เริ่มกลิ้งห่วงออกให้ห่างตัว แล้วดึงกลับมา ทำซ้ำ 12 ครั้ง แล้วเปลี่ยนไปอีกข้างหนึ่งทำซ้ำ 12 ครั้ง เช่นกัน

4. หมุนห่วงรอบสะโพก 3-5 นาที

5. แยกขากว้างประมาณช่วงไหล่ ปลายเท้าชี้ตรงไปข้างหน้า สองมือจับห่วงชูขึ้นข้างหน้า ยกเท้าขวาขึ้นทางด้านข้างสองครั้ง พร้อมกับบิดลำตัวไปทางด้านซ้าย จากนั้นยกขาซ้ายขึ้นทางด้านข้างสองครั้ง พร้อมกับบิดลำตัวไปทางขวา (รวมเป็น 1 เซ็ต) ทำ 2 เซ็ต เซ็ตละ 12 ครั้ง

6. หมุนห่วงรอบสะโพก 3-5 นาที

7. แยกขากว้างประมาณช่วงไหล่ ปลายเท้าชี้ตรงไปข้างหน้า สองมือจับห่วงชูขึ้นข้างหน้า หมุนตัวไปข้างซ้ายเล็กน้อย และเหยียดแขนขวาข้ามไปจับด้านซ้ายของห่วง ขณะที่ทำท่านี้เขย่งปลายเท้าขวาขึ้นด้วย ทำซ้ำอีกด้านหนึ่ง

8. หมุนห่วงรอบสะโพก 3-5 นาที

9. นอนหงายบนพื้น ยกขาตั้งฉาก 90 องศากับพื้น ถือห่วงไว้ในมือซ้ายให้สูงที่สุด ค่อยๆ เลื่อนเท้าทั้งสองข้างไปแตะที่ด้านล่างของห่วง เหยียดแขนขวาขึ้นเหนือศีรษะ พร้อมกับยกไหล่ขึ้นเหนือพื้นเล็กน้อย (พยายามอย่าให้บั้นเอวยกตามไปด้วย) จากนั้นลดขาลงจนกระทั่งอยู่เหนือพื้น 2-3 นิ้ว กลับสู่ท่าเริ่มต้นนับเป็น 1 ครั้ง ทำซ้ำ 2 เซ็ต เซ็ตละ 12 ครั้ง โดยเปลี่ยนมาเป็นข้างขวาในเซ็ตที่สอง


ประโยชน์ … การออกกำลังกายด้วย ฮูล่า ฮูป

1. การเล่น ฮูล่าฮูป เป็นการออกกำลังกายในรูปแบบแอโรบิคอย่างหนึ่ง เล่นง่าย เป็นอุปกรณ์ ออกกำลังกายที่มีผลกระทบต่อร่างกายน้อย จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับคนทุกเพศทุกวัย

2. ฮูล่าฮูป จะช่วยทำให้หน้าท้อง สะโพก แผ่นหลัง กล้ามเนื้อบริเวณขา และเข่า กระชับมากขึ้น เนื่องจากไขมันส่วนเกินจะถูกเผาผลาญเพื่อใช้เป็นพลังงานออกไปกว่า 200 – 300 แคลอรี่ ภายใน 20 นาที ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการกำจัดไขมันส่วนเกิน ทำให้น้ำหนักตัวลดลง และกล้ามเนื้อกระชับมากขึ้น

3. ฮูล่าฮูป อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้กับกล้ามเนื้อทั้งลำตัว และความยืดหยุ่นของข้อต่อและกระดูกต่างๆ ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจกับรูปร่างและท่วงท่าการเดินของคุณ อีกทั้งการออกกำลังกายด้วย ฮูล่า ฮูป นี้ จะทำให้คุณร็สึกว่าสุขภาพของคุณดีขึ้น อาการเหนื่อยง่ายหรือปวดเมื่อยจากกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันที่เคยมีจะเกิดขึ้นน้อยลง

4. การเล่นฮูล่าฮูปจะช่วยเพิ่มระดับการหมุนเวียนของเลือดไปสู่สมอง ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และพร้อมที่จะทำกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้ทันที

5. เป็นการออกกำลังกายที่ใช้พื้นที่น้อย สามารถพกพาห่วงไปไหนมาไหนได้ทุกที ให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินกับทุกคนในครอบครัวได้ทุกทีทุกเวลา รวมถึงกลุ่มเพื่อนที่มาออกกำลังกายร่วมกันอีกด้วย